เมนู

อนฺตราเยอนาปตฺติวสฺสจฺเฉทกถาวณฺณนา

[201] ‘‘สเจ ทูรํ คโต โหติ, สตฺตาหวาเรน อรุโณ อุฏฺฐาเปตพฺโพ’’ติ วจนโต ‘ยสฺมิํ อนฺตราเย สติ วสฺสจฺเฉทํ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมิํ อนฺตราเยว วสฺสจฺเฉทมกตฺวา สตฺตาหกรณีเยน วีตินาเมตุํ วฏฺฏตีติ ทีปิตนฺติ อปเร’’ติ วุตฺตํฯ วินยธรา ปน น อิจฺฉนฺติ, ตสฺมา ‘‘สตฺตาหวาเรน อรุโณ อุฏฺฐาเปตพฺโพ’’ติ อิทํ ตตฺรุปฺปาทาทินิมิตฺตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ตํ สนฺธาย ‘‘อาจริยา ปน เอวํ น วทนฺตี’’ติ วุตฺตํฯ คาวุํ วาติ พลิพทฺธํ วาฯ พหิสีมาย ฐิตานนฺติ เตหิ ขณฺฑสีมาย ฐิเตหิปีติ อุปติสฺสตฺเถโรฯ วสฺสจฺเฉเท อสฺส วสฺสจฺเฉทสฺสฯ วิหารา อญฺญตฺถ วุฏฺฐาเปนฺเตหิ ตตฺเถว สนฺนิปติตฺวา ‘‘อิมินา จ อิมินา จ การเณน อิมสฺมิํ นาม ปเทเส อิมํ วิหารํ เนตฺวา วุฏฺฐาเปมา’’ติ อนุสฺสาเวตฺวาว กาตพฺพนฺติฯ

วชาทีสุวสฺสูปคมนกถาวณฺณนา

[203] วเชน สทฺธิํ คตสฺส วสฺสจฺเฉเท อนาปตฺตีติ วสฺสจฺเฉโท น โหตีติ กิร อธิปฺปาโยฯ สตฺถสฺส อวิหารตฺตา ‘‘อิมสฺมิํ วิหาเร’’ติ อวตฺวา ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ เอตฺตกํ วตฺตพฺพํฯ ‘‘สตฺเถ ปน วสฺสํ อุปคนฺตุํ น วฏฺฏตีติ ‘อิมสฺมิํ วิหาเร อิมํ เตมาส’นฺติ วา ‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’ติ วา น วฏฺฏติ, อาลยกรณมตฺเตเนว วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย’’ติ ลิขิตํฯ ตํ ปน อฏฺฐกถาย วิรุชฺฌติฯ ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมีติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพ’’นฺติ หิ วุตฺตํฯ อฏฺฐกถาวจนมฺปิ ปุพฺพาปรํ วิรุชฺฌตีติ เจ? น, อธิปฺปายาชานนโตฯ สตฺโถ ทุวิโธ ฐิโต, สญฺจาโรติฯ ตตฺถ ฐิเต กุฏิกาย ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ วตฺวา วสิตพฺพํฯ อิทญฺหิ สนฺธาย ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สตฺเถ วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติ วุตฺตํ, สญฺจาริมฺหิ ปน สตฺเถ กุฏิกาย อภาวโต วสฺสํ อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติฯ สติ สิวิกาย วา สกฏกุฏิกาย วา วฏฺฏติ, ตถา วเชปิฯ ตีสุ ฐาเนสุ ภิกฺขุโน นตฺถิ วสฺสจฺเฉเท อาปตฺติฯ

ปวาเรตุญฺจ ลภตีติ เอตฺถายํ วิจารณา – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เยน วโช, เตน คนฺตุ’’นฺติ อิทํ กิํ วสฺสรกฺขณตฺถํ วุตฺตํ, อุทาหุ วสฺสจฺเฉทาปตฺติรกฺขณตฺถนฺติ? กิญฺเจตฺถ ยทิ วสฺสรกฺขณตฺถํ, ‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ อิทํ วิรุชฺฌติฯ อถ วสฺสจฺเฉทาปตฺติรกฺขณตฺถํ วุตฺตนฺติ สิทฺธํ น โส ปวาเรตุํ ลภตีติ, กา ปเนตฺถ ยุตฺติ? ยโต อยเมว ติวิโธ ปวาเรตุํ ลภติ, เนตโรฯ วาเฬหิ อุพฺพาฬฺหาทิโก หิ อุปคตฏฺฐานาปริจฺจาคา ลภติฯ ปริจฺจาคา น ลภตีติ อยเมตฺถ ยุตฺติฯ เยน คาโม, ตตฺถ คโตปิ ปวาเรตุํ ลภตีติ เอเกนาติ อาจริโยฯ

โย หิ ปุพฺเพ ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ น อุปคโต, ‘‘อิมสฺมิํ วิหาเร’’ติ อุปคโต, โส จ ปริจฺจตฺโตฯ อญฺญถา วินา วิหาเรน เกวลํ คามํ สนฺธาย ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ อุปคนฺตุํ วฏฺฏตีติฯ อาปชฺชตูติ เจ? น, ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วเช สตฺเถ นาวาย วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติ วจนํ วิย ‘‘คาเม อุปคนฺตุ’’นฺติ วจนาภาวโตฯ ยสฺมา ‘‘ตีสุ ฐาเนสุ ภิกฺขุโน นตฺถิ วสฺสจฺเฉเท อาปตฺตี’’ติ วจนํ ตตฺถ วสฺสูปคมนํ อตฺถีติ ทีเปติ ตทภาเว เฉทาภาวา, ตสฺมา ‘‘สตฺเถ ปน วสฺสํ อุปคนฺตุํ น วฏฺฏตี’’ติ กุฏิยา อภาวกาลํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ สิทฺธํฯ ตีสุ ฐาเนสุ ภิกฺขุโน นตฺถิ วสฺสจฺเฉเท อาปตฺตีติ ‘‘เตหิ สทฺธิํ คจฺฉนฺตสฺเสว นตฺถิ, วิรุชฺฌิตฺวา คมเน อาปตฺติ จ, ปวาเรตุญฺจ น ลภตี’’ติ ลิขิตํ, ตสฺมา ยํ วุตฺตํ อฏฺฐกถายํ ‘‘อถ สตฺโถ อนฺโตวสฺเสเยว ภิกฺขุนา ปตฺถิตฏฺฐานํ ปตฺวา อติกฺกมติ…เป.… อนฺตรา เอกสฺมิํ คาเม ติฏฺฐติ วา วิปฺปกิรติ วา’’ติอาทิ, ตํ เอตฺตาวตา วิรุชฺฌิตฺวา คตานมฺปิ วิรุชฺฌิตฺวา คมนํ น โหติ, ตสฺมา ปวาเรตพฺพนฺติ ทสฺสนตฺถนฺติ เวทิตพฺพํฯ

ตตฺถ ‘‘ปทรจฺฉทนํ กุฏิํ กตฺวา อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ วจนโต เสนาสนตฺถาย รุกฺขํ อารุหิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ โหติ, น ปาฬิวิโรธโตติ เจ? น, ตปฺปฏิกฺเขเปเนว สิทฺธตฺตา, อิมสฺส อิธ ปุนปิ ปฏิกฺเขปนโตฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ อิมินา ปฏิกฺเขเปน สิทฺเธ ‘‘น, ภิกฺขเว, อชฺโฌกาเส วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ ปฏิกฺเขโป วิย สิยาติ เจ? น, อชฺโฌกาสสฺส อเสนาสนภาวานุมติปฺปสงฺคโตฯ อชฺโฌกาโส หิ ‘‘อชฺโฌกาเส ปลาลปุญฺเช’’ติ วจนโต เสนาสนนฺติ สิทฺธํฯ จตุสาลอชฺโฌกาเส วสนฺโตปิ ‘‘จตุสาลาย วสตี’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา ตตฺถ วฏฺฏตีติ อาปชฺชติ, ตสฺมา อิธ อเสนาสนิโก นาม อตฺตนา วา ปเรน วา อตฺตโน นิพทฺธวาสตฺถํ อปาปิตเสนาสนิโกติ เวทิตพฺพํฯ อญฺญถา ทฺวินฺนํ ปฏิกฺเขปานํ อญฺญตราติเรกตา จ รุกฺขมูเลปิ นิพฺพโกเสปิ วสฺสํ อุปคนฺตุํ วฏฺฏตีติ จ, อปาปิตเสนาสนิเกนาปิ คพฺเภ วสิตุํ วฏฺฏตีติ จ อาปชฺชติ, สทฺวารพนฺธเมว เสนาสนํ อิธ อธิปฺเปตนฺติ กถํ ปญฺญายตีติ เจ? นิทานโตฯ

อยญฺหิ อเสนาสนิกวสฺสูปคมนาปตฺติ ‘‘เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อเสนาสนิกา วสฺสํ อุปคจฺฉนฺติ, สีเตนปิ อุณฺเหนปิ กิลมนฺตี’’ติ อิมสฺมิํ นิทาเน ปญฺญตฺตา, ตสฺมา สีตาทิปฏิกฺเขปเมว อิธ เสนาสนนฺติ อธิปฺเปตพฺพนฺติ สิทฺธํฯ เอวํ สนฺเต สิทฺธํ ปุพฺพปกฺขนิทสฺสนนฺติ เจ? น, ปุพฺเพ อปรตฺถปวตฺติสูจนโตฯ ทุติยชฺฌานนิทฺเทเส ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ (ที. นิ. 1.228; ม. นิ. 1.271) วจนานิ นิทสฺสนํฯ อชฺโฌกาสปฏิกฺเขปนิทาเนน พหิอชฺโฌกาโสว ปฏิกฺขิตฺโต, น จตุสาลาทิมชฺฌคโต อชฺโฌกาโสติ อาปชฺชติ, ตสฺมา น นิทานํ ปมาณนฺติ เจ? น, นิยมโตฯ กิญฺจิ หิ สิกฺขาปทํ นิทานาเปกฺขํ โหตีติ สาธิตเมตํฯ อิทํ สาเปกฺขํ, อิทํ อนเปกฺขนฺติ กถํ ปญฺญายติ, น หิ เอตฺถ อุภโตวิภงฺเค วิย สิกฺขาปทานํ ปทภาชนํ, อนาปตฺติวาโร วา อตฺถีติ? อิธาปิ เทสนาวิธานโต ปญฺญายติฯ ‘‘เทเว วสฺสนฺเต รุกฺขมูลมฺปิ นิพฺพโกสมฺปิ อุปธาวนฺตี’’ติ หิ อิเมหิ ทฺวีหิ นิทานวจเนหิ พหิ วา อนฺโต วา สพฺพํ โอวสฺสกฏฺฐานํ อิธ อชฺโฌกาโส นามฯ อโนวสฺสกฏฺฐานมฺปิ อนิพฺพโกสเมว อิธ อิจฺฉิตพฺพนฺติ สิทฺธํ โหติฯ เตน น อุปคนฺตพฺพนฺติ น อาลยกรณปฏิกฺเขโป, ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ วจนปฏิกฺเขโปฯ ฉวสรีรํ ทหิตฺวา ฉาริกาย, อฏฺฐิกานญฺจ อตฺถาย กุฏิกา กรียตีติ อนฺธกฏฺฐกถาวจนํฯ ‘‘ฏงฺกิตมญฺโจติ กสิกุฏิกาปาสาณฆร’’นฺติ ลิขิตํฯ ‘‘อกวาฏพทฺธเสนาสเน อตฺตโน ปาปิเต สภาคฏฺฐาเน สกวาฏพทฺเธ วสติ เจ, วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํฯ ปโยโคปิ อตฺถิ, ‘‘อเสนาสนิเกน วสฺสํ น อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ ปาฬิอฏฺฐกถา จ, ตสฺมา อุปปริกฺขิตพฺพํฯ

อธมฺมิกกติกาทิกถาวณฺณนา

[205] มหาวิภงฺเค วุตฺตนฺติ เอตฺถ อยํ อนฺธกฏฺฐกถาวจนํ อูนปนฺนรสวสฺเสน สามเณเรน อิธ วิหาเร น วตฺถพฺพา, น ปํสุกูลํ อาหิณฺฑิตพฺพํ, น โจฬภิกฺขา คเหตพฺพา, น อญฺญวิหาเร ภุญฺชิตพฺพํ, น อญฺญสฺส ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา สนฺตกํ ภุญฺชิตพฺพํ, อญฺญมญฺญํ เนว อาลเปยฺยาม น สลฺลเปยฺยาม, น สชฺฌายิตพฺพํ, มตฺติกาปตฺเตน วฏฺฏติ, น อปริปุณฺณปริกฺขารสฺส วาโสติฯ

[206] มุสาวาโทติ วิสํวาโท อธิปฺเปโตฯ เกจิ ‘‘วิสํวาทนวเสน ปฏิสฺสุณิตฺวาติ วุตฺต’’นฺติ จ, ‘‘รญฺโญ วุตฺตวจนานุรูปโต มุสาวาโทติ คหฏฺฐา คณฺหนฺตีติ วุตฺต’’นฺติ จ วทนฺติฯ